หน้าแรก รีวิวจากนักท่องเที่ยว มนต์เสน่ห์แห่...

มนต์เสน่ห์แห่งวัดจันทร์

โครงการหลวงวัดจันทร์

มนต์เสน่ห์แห่งวัดจันทร์

ในวันหยุดยาวปีใหม่คงเป็นวันที่หลายๆคนวางแผนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว จึงทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักจะเต็มไปด้วยความพลุกพล่านเสมอในช่วงปีใหม่  แต่จะดีแค่ไหนนะหากเราได้ใช้เวลาท่องเที่ยวในวันหยุดยาวช่วงปีใหม่นี้ไปกับการดื่มด่ำความงามของธรรมชาติแบบเงียบสงบปราศจากความวุ่นวายและความพลุกพล่านของผู้คน

ในที่นี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักอำเภอปาย อำเภอเล็กๆกลางหุบเขาที่มีเสน่ห์และงดงามรอต้อนรับการมาเยือนของผู้คนเสมอ  จึงไม่แปลกใจที่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่นี้ที่พักของอำเภอปายจะเต็มไปเสียทุกที่ แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่า บนเส้นทางระหว่างเชียงใหม่-ปาย ก่อนจะถึงปายประมาณ 10 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือชี้ป้ายบอกทางไปอำเภอกัลยาณิวัฒนา อันเป็นที่ตั้งของ “โครงการหลวงวัดจันทร์” และโครงการหลวงวัดจันทร์นี่แหละ คือสถานที่ ๆ พวกเราเลือกที่จะไปเที่ยวในวันหยุดยาวช่วงปีใหม่

แต่ไหน ๆ อีก 10 กิโลเมตรจากทางแยกไปโครงการหลวงวัดจันทร์ก็จะถึงปายแล้ว ขอพาพวกลิงทโมนไปแวะเยี่ยม   ปายกันก่อนก็แล้วกัน

ที่ท่องเที่ยวปายหลังจากถ่ายรูปที่ปายกันจนหนำใจแล้ว เราก็ย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดเป้าหมายหลักของเรานั่นก็คือ “โครงการหลวงวัดจันทร์” เส้นทางไปโครงการหลวงวัดจันทร์ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก สองข้างทางแทบไม่มีรีสอร์ทหรือที่พักใด ๆ เลย หลังจากแยกเข้ามาตรงทางเส้นเชียงใหม่-ปาย ได้ประมาณ 30 กิโลเมตร พวกเราก็ได้พบกับควันโขมงลอยเต็มไปหมด และเมื่อขับเข้าไปในระยะที่เห็นได้ชัดทำให้เราได้รู้แหล่งที่มาของควัน นั่นก็คือ

บ่อน้ำพุร้อนทางไปวัดจันทร์

ใช่แล้วค่ะ มันคือบ่อน้ำพุร้อนซึ่งอยู่ริมข้างทางกันเลยทีเดียว จากการสอบถามจากเจ้าของร้านค้าบริเวณนั้นจึงได้ทราบว่าน้ำพุร้อนนี้เพิ่งประทุมาได้ไม่นาน เราเลยสงสัยว่า อาจจะเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเมื่อครั้งแผ่นดินไหวรอบล่าสุดก็เป็นได้ หลังจากแวะให้เด็ก ๆ ต้มไข่ทานกันพอหอมปากหอมคอ ก็ออกเดินทางกันต่อ  โดยขับจากจุดน้ำพุร้อน ประมาณ 20 กิโลเมตร เราก็ถึงที่หมายของเราแล้วค่ะ

วัดจันทร์ เชียงใหม่

หากใครพอจะรู้จักโครงการหลวงวัดจันทร์อยู่บ้างคงจะทราบกันดีว่า ไฮไลท์ของการมาเที่ยวโครงการหลวงวัดจันทร์คือการตื่นเช้ามาเก็บภาพบรรยากาศสายหมอกล่องลอยเหนือผิวน้ำท่ามกลางความงามของธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ

แต่ ณ ขณะที่เราไปถึงนั้น ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเย็นจึงทำให้เราทำใจไว้ส่วนนึงแล้วว่า อาจจะไม่ได้เห็นสายหมอกเหนือผิวน้ำอันไปไฮไลท์ของที่นี่ แต่ไม่เป็นไรค่ะ แค่ความงามและของทิวสน ทุ่งนาและเมเปิลที่เปลี่ยนสีรวมไปถึงความเงียบสงบ น่าพักผ่อนก็ถือว่าคุ้มแล้วที่เราเลือกมาพักผ่อนกันที่โครงการหลวงวัดจันทร์แห่งนี้

โครงการหลวงวัดจันทร์ เชียงใหม่
เมเปิ้ลเปลี่ยนสีที่โครงการหลวงวัดจันทร์

โครงการหลวงวันจันทร์มีบ้านพักที่แสนน่ารักไว้บริการด้วย น่าเสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย หากใครสนใจ สามารถดูและจองได้จากเว็บของโครงการเลยนะคะ ของจริงสวยเหมือนในภาพเลยค่ะ แต่เนื่องด้วยครั้งนี้พวกเรามากันหลายคน จึงเลือกที่จะกางเต้นท์นอนกัน ซึ่งจุดกลางเต้นท์ก็กว้างขวางสะดวกสบาย มีห้องน้ำสะอาดไว้บริการ มีหลอดไฟให้ความสว่าง ไม่น่ากลัวเลย หลังจากจับจองพื้นที่กางเต้นท์กันเรียบร้อยพวกเราก็ออกไปซื้ออาหารกัน จึงทำให้รู้ว่า เราพลาดแล้วที่ไม่ตุนอาหารกันมาก่อน เพราะในหมู่บ้านมีร้านค้าอยู่เพียงแค่ 1 ร้านเท่านั้น และที่สำคัญ เค้าใช้ภาษาที่เราฟังไม่รู้เรื่องค่ะ และเค้าก็ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เราสื่อเสียด้วย พวกเราจึงได้แค่เลือกซื้อขนม นม เครื่องดื่มต่าง ๆ มาเท่านั้น แต่จุดบริการของโครงการก็มีอาหารและมาม่าคัพไว้บริการนะคะ แต่ราคาจะค่อนข้างแพงเล็กน้อย

ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางประกอบกับอากาศบริสุทธ์และเย็นสบายของโครงการหลวงแห่งนี้  เมื่อทานอาหารเสร็จและคุยกันต่อเล็กน้อยพวกเราจึงแยกย้ายกันเข้านอนทันที และสะดุ้งตื่นกันในเวลาประมาณ 06.00 น. ด้วยความเย็นและเปียกชื้นจากเต้นท์ทั้ง ๆ ที่มีผ้าใบคลุมไว้อีกชั้น เมื่อลุกขึ้นมาดูนอกเต้นท์จึงพบว่ามีหมอกปกคลุมบริเวณข้างนอกอยู่เต็มไปหมด โดยไม่รอช้าพวกเรารีบใส่เสื้อผ้าเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย แล้วรับลุกออกจากเต้นท์ไปเก็บบรรยากาศข้างนอกกันทันที

บรรยากาศยามเช้า ณ โครงการหลวงวัดจันทร์
ชมหมอกหยอกล้อกับผิวน้ำที่โครงการหลวงวัดจันทร์ เชียงใหม่
ชมหมอกหยอกล้อกับผิวน้ำที่โครงการหลวงวัดจันทร์ เชียงใหม่

ด้วยความที่กล้องที่เราใช้เป็นเพียงกล้องจากโทรศัพท์มือถือธรรมดา จึงไม่อาจเก็บความงามได้เหมือนภาพที่เราเห็นด้วยตา ภาพเบื้องหน้าที่ช่างงดงามยิ่งกว่ารูปใบไหน ๆ ที่เราได้ดูมา และด้วยความที่เราคิดว่าเราอาจจะไม่ได้เจอกับภาพหมอกลอยหยอกเย้ากับพื้นน้ำอันเป็นไฮไลท์ของที่นี่เสียแล้ว ภาพตรงหน้าจึงยิ่งสร้างความประทับใจให้เราอย่างมากมาย เราเฝ้ามองภาพนั้นจนเมื่อพระอาทิตย์ส่องแสงทั่วท้องฟ้าและหมอกเริ่มจางไป จึงค่อยกลับมาอาบน้ำเตรียมตัวเดินทางต่อ

เพียงหนึ่งคืนที่ได้มานอนพักที่ “โครงการหลวงวัดจันทร์” แห่งนี้ เหมือนได้มาชาร์ทแบตให้กับร่างกายได้มากทีเดียว ด้วยการที่ไม่ต้องเร่งรีบไปกับอะไร และด้วยความสงบที่ทำให้รู้สึกว่าเวลาของที่นี่เดินช้ากว่าเวลาในชีวิตเราเสียอีก หากคุณกำลังมองหาที่พักซักที่ที่สวยงาม และสงบปราศจากความพลุกพล่านของผู้คนเพื่อมาเติมพลังให้แก่ชีวิต โครงการหลวงวัดจันทร์แห่งนี้ ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

Published in รีวิวจากนักท่องเที่ยว

แสดงความคิดเห็น

comments

ทิ้งคำตอบไว้