หน้าแรก รีวิวจากนักท่องเที่ยว เที่ยวยุโรปด้...

รีวิวจากนักท่องเที่ยว

เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง 16 วัน กับประสบการณ์และวิธีเอาตัวรอด ตอน 3

โดย

ThaiHRhub

4128

เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง 16 วัน ด้วยงบ 70,000 บาท

ใครที่ยังไม่ได้ติดตามต่อที่ 1 และ ตอนที่ 2 ติดตามได้ตามลิงค์ล่างนี้

ตอนที่ 1 แบกเป้ เที่ยวยุโรป

ตอนที่ 2 เที่ยวยุโรปคนเดียว

อย่ารอช้า มาต่อกันเลย เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง

2015.10.21 (ภาคค่ำ) : จากรีวิวแต่หละเมืองมาปรกติโบจะไม่ค่อยอยู่จนถึงดึกถ่ายรูปวิวกลางคืน เหตุเพราะนึกว่าตัวเองถ่ายไม่ได้ รูปคงออกมาไม่สวย แต่หลังลองเล่นกล้องไปเรื่อยๆ อ่าวได้นิ…ทีนี้เลยไม่ยอมกลับ Hostel เลย 5555555 ก็มือสมัครเล่นอ่ะน่ะ ติชมกันได้ มาบอกลา Prague ด้วยภาพวิวตอนกลางคืนที่แสนโรแมนติกแต่ดันมาคนเดียว 555555

2015.10.22 (ภาคเช้า): ออกจาก Prague ตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อไป Cesky Krumlov มารอที่ท่ารถบัส เจอป้าคนไทย 2 คน (ป้าเยาว์กับป้าปุ๊ย) มาทริปยุโรปกันเอง 40 กว่าวัน!!!!! ป้าบอกป้าเกษียณแล้วก็เลยจะเที่ยวให้หนำใจ กรี๊ดดดดด!!!! ป้าเป็นไอดอลหนูค่ะ

ถึง Cesky Krumlov ประมาณ 9 โมง ด้วยความที่เรากะไม่พักที่นี่แต่จะไป Salzburg ต่อเลย แต่ไปถึงท่ารถ เจ้าหน้าที่ก็แบบหน้าหงึกมากบอกไม่ใช่ info. ? ทำไงหละ wifi ก็ไม่มี เท่าที่รู้มาคือจะมี shuttle bus (เหมือนรถตู้บ้านเราแต่ 7 ที่นั่ง) นั่งแชร์กับคนอื่นไปสามารถจอง online ให้มารับหน้าที่พักเราได้เลย แต่คิดว่ามันต้องมี office ที่ท่ารถซิน่า ปรากฏไม่มี!!!!! ต้องขอบคุณป้าเยาว์กับป้าปุ๊ย ชวนเราเดินไปที่ hostel. ที่ป้าพักก่อน เราก็เลยได้ข้อมูลว่ามี office อยู่ใกล้ๆ แถวๆ info center square ก็เดินไป book รถอะไรเรียบร้อย ได้รถรอบ 12:50 เพราะงั้นเรามีเวลาเดินเล่นใน Cesky Krumlov ประมาณ 2 ชม ก็ได้อยู่เพราะเมืองเล็กมาก เดินเร็วอยู่แล้วด้วย เสียดายก็แต่อยากอยู่ชมเมืองแบบชิวๆกะป้าเยาว์กะป้าปุ๊ยนานกว่านี้หน่อย เพราะป้าแกเฮฮามาก ตลกป้าเยาว์บอกป้าปุ๊ยขี้เม้าส์ “นี่ดูซิพูดไม่หยุด แล้วนี่ไปหาข้าวกินก่อนได้ม่ะ ฉันหิวข้าว” ป้าเยาว์…ป้าแกก็แหย่กันเล่นไปตลอดทาง ทำให้การมาเมืองนี้ที่เป็นเมืองมรดกโลกที่สวยโคตรๆ แล้วยังมีสีสัน เสียงหัวเราะจากป้าทั้งสอง ก่อนจากกะป้าๆ แกก็อวยพร “safe trip น่ะลูก ไปไหนมาไหนดูแลตัวเองดีๆ เก็บสตาค์ดีๆ น่ะลูก” มันเป็นความอบอุ่นที่ได้รับจากป้าทั้งสองทั้งๆ ที่เจอกันไม่กี่ชั่วโมง

รอขึ้นรถรางขึ้นเขาที่ Hallstatt ว่างอัฟรูปเล่น อิอิ

The world heritage view

Hallstatt-Dachstein Salzwelten

2015.10.22 (ภาคค่ำ) : นั่ง Shuttle bus ในราคา 30€ (แพงสาดดดด แต่ต้องยอม ไม่มีทางเลือก) จาก Cesky Krumlov ตอนบ่ายโมง ใช้เวลา 3 ชมครึ่งถึง Salzburg ต้องบอกว่านั่งไม่หลับเลยเพราะ 2 ข้างทาง ฟินมากกกกก…ต้องบอกก่อนว่าโบมาตอนฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แล้วนึกดูน่ะ ต้นไม้แต่หละต้นคือมี 3 สี ภูเขาที่เป็นสีเขียวสลับส้ม ทุ่งหญ้าที่มีวัวกินหญ้า ผ่านทะเลสาบสีฟ้า กับอากาศ 8 องศากำลังดี เหนื่อยน่ะแต่พรี่หลับไม่ลง นั่งชมบรรยากาศตลอดทาง

มาถึงที่หมาย Salzburg ด้วยอาการเหนื่อยเล็กน้อย เพราะเมื่อเช้าปีนขึ้นไปดูปราสาทที่ Cesky Krumlov มา คนขับบอก จ่ายเพิ่ม 6€ จะส่งถึงหน้าที่พักเลย เออ! จัดไป

เก็บของอะไรเรียบร้อยเวลา 4 โมงก่าๆ จะให้พักเวลานี้อ่ะหรอ ค่ะ!!!! ไม่มีทาง!!!!! สำหรับโบ ออกไปเดินในเมือง Salzburg ต่อเลยจ้าาาา วันเดียวเช้าเมืองบ่ายอีกเมืองน่องโตแน่ตรู – -”

Salzburg เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่ การคมนาคมสะดวก มีทั้ง บัส Tram Metro แต่ที่นี่โบใช้ bus ตลอด ค่ารถเที่ยวเดียว 2.5€, 1 day pas 5.5€ เลยซื้อแบบ 1 วัน น่าจะคุ้มกว่า ตั๋วสามารถซื้อจากคนขับได้เลย

ที่นี่ในส่วนเมืองเก่าที่สวยๆ จริงๆ มันเป็นพื้นที่ของ Salzburg University เป็นมหาลัยที่มีปฏิมากรรมเยอะแยะมากมาย รวมๆ แล้วก็โอเคน่ะ แต่ชอบเมืองอื่นมากกว่า หรือเราเดินไม่ครบไม่รู้ อ่อ..ที่นี่มีส่วนของปราสาทที่มีรถรางขึ้นไป พอดีไปถึงมัน 6 โมงแล้ว เลยไม่ได้ขึ้นไป อีกอย่างเค้าน่าจะปิดแล้วด้วย เลยเดินชมเมืองยามดึกไปเรื่อยๆ ที่นี่โบชอบพวกร้านค้ากับป้ายต่างๆ และรูปแบบร้านที่เป็นแนว Classic โบราณๆ มาประยุกต์กับสไตล์ของแต่หละ brand ดูแล้วแปลกจากที่อื่น สวยดี โดยรวมมองว่า Salzburg เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวแวะเพื่อมาพักเพื่อไป Hallstatt มากกว่า เพราะราคาห้องถูกกว่าและโดยมากที่พักใน Hallstatt จะเต็ม

คืนนี้นอน Dorm แบบผสมชายหญิง (10เตียง) คืนหละประมาณ 800 บาท ก็โอเคน่ะ เพราะทุกทีจะนอนห้องผู้หญิงอย่างเดียว ได้ของแถมมาเป็นเสียงกรน จากผู้เตียงข้างๆ ก็พร้อมใจกรนสลับจังหวะครอกฟู่ๆ ตลอดคืน อยากจะเอาถุงเท้าเหม็นๆ ยัดปากแหม่งงงงจริงๆ นี่ขนาดซัดยาแก้แพ้ไปยังหลับไม่สนิทเลย!!!! 5555555

2015.10.23 : วันนี้ตื่นขึ้นมากับคำว่า “เอาไงดีว่ะ” คือยังตัดสินใจไม่ได้ว่าวันนี้จะไปไหนดี เมื่อคืนนอนหาข้อมูลแต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ มองไปนอกหน้าต่างเวลา 6 โมง ฟ้ายังมึดแถมฝนตก เลยนอนดูนู้นนี่ไปเพลินๆ กะรอเจอ The gang ที่จริงๆ ต้องเจอตั้งแต่เมื่อคืน แต่นางตกรถไฟเลยมาช้ากว่ากำหนด กว่านางจะถึงที่พักเกือบ 5 ทุ่ม เราก็หลับไปแล้ว (อัดยาแก้แพ้กันทุกคืน หัวถึงหมอนหลับเลยจ้า) ซักพักลุกมาแพ๊คของทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ไปไหน 55555 แล้วลงมาเจอ The gang ตอน 9 โมงที่ห้องครัวข้างล่าง (โบมา walk-in ที่พัก เลยได้นอนคนหละห้องกัน) เปิดไปได้กลิ่นพาสต้าหอมมา มองไปโอ๊ยยยยน่ากินอ่ะ คนทำน่ะไม่ใช่พาสต้า 555555 ผู้ชายทำอาหารดูมีเสน่ห์เนอะ ระหว่างทานอาหาร (นั่งโต๊ะเดียวกัน) ชวนนางคุยได้ความว่าเป็นคนเกาหลี มาเที่ยวคนเดียว (แหมะ!! ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหมน้อง ?) คุยได้แปปนึงคิดได้เออวันนี้ตรูยังไม่ได้แพลนชีวิตตัวเองเลยนี่หว่า เลยหันไปคุยกะ The Gang เรื่องจะไป Hallstatt เพราะเพื่อนเพิ่งไปมาเมื่อวาน และเราก็ตัดสินใจอยู่ว่าจะไปไม่ไปดี ดันคุยกันยาวไปหน่อยพ่อหนุ่มเกาหลีกินเสร็จขอตัวไปซะหละ ก็ say goodbye ในขณะที่พูดไทยกะเพื่อนว่า “เมิงงงงน่ารักอ่ะ อยากได้” (อีกหละ) 555555

สรุป plan วันนี้คือไป Hallstatt เดินเที่ยวเสร็จแล้วเข้าไปนอนที่เวียนนาโดยมีข้อมูลว่า จาก Salzburg นั่ง Bus No.150 (10.5€) >> ลง Bad Ichi >> ต่อ Train จาก Bad Ichi (4.5€) >> ลงสถานี Hallstatt >> ต่อ Ferry (2.5€) ข้าม lake เข้า Hallstatt ….แม่เจ้า!!!! ถ้าไม่สวยน่ะเมิงงงงงงน่าดู ไปถึงเห็นเมืองด้านล่างก็เออสวยดีเมืองริมน้ำ เพราะอารมณ์คือแบบ…ออฟฟิศของสถานีรถไฟปิดเพราะมีงานอะไรนี่แหละ นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะสามารถซื้อตั๋วจาก ticket machine ได้ ประเด็นคือตรูจะฝากอี 10 กว่าโลบนหลังตรูเนี่ยไว้ที่ไหน จะให้แบกขึ้นไปดูวิวด้วยคงไม่ไหวน่ะฮ่ะ ณ. จุดนี้ มองไปรอบๆ มีพวกร้านอาหารในใจนึกทำเนียนเข้าไปกินไรนิดหน่อยแล้วฝากเค้าดีไหมน้า ระหว่างนั้นหูได้ยินเสียงภาษาไทยเลยเดินเข้าไปคุย พี่เค้ามาพักที่นี่ก็คุยนู้นนี่ถ่ายรูปเดินไปกับพี่เค้า เค้าก็รู้ว่าเรามาคนเดียว one day trip หาที่ฝากกระเป๋าอยู่แต่ก็ไม่เอ่ยว่าไปฝากที่พักเค้าไหม ไอ้เราก็เกรงใจไม่กล้าขอ ในใจก็เอาว่ะมันต้องมีดิไม่งั้นก็แบกแม่งไปด้วยนี่แหละ เดินๆ ไปก็ถามคนนู้นคนนี้ได้ความว่ามี service center (หรือที่ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว) อยู่ใกล้รถไฟขึ้นเขาที่เราจะไปนั่ง ก็ได้ฝากกระเป๋าในราคา 2€ สมใจ เกือบต้องแบกของเป็นนักปีนเขาหละง่ะตรู

หลังเริ่มว่าง ตาเริ่มเปิด เดินขึ้นรถไฟขึ้นเขา (ขึ้นอย่างเดียว 7€) ออกจากรถไฟเท่านั้นแหละ เฮ้ยยยยย!!!! เข้าใจแล้วทำไมต้องมา ทำไมได้ The World Heritage View Panorama จาก UNESCO มันคุ้มกับที่ดั้นด้นมา คือโบโชคดีเพราะก่อนมาถึงฝนตกเลยได้บรรยากาศแบบหมอกลง แต่พอขาลงจะกลับแดดออกได้เห็นยอดเขา และแสงสีของไม้เปลี่ยนสี ทะเลสาบสะท้อนเป็นสีฟ้า จะมีกี่ที่ที่ได้วิวแบบนี้ ฟินค่ะ (ดูได้จากภาพ) ^^ พอถึงขาลงโบเดินลงเอาคือทางลงนี่วิวสวยมาก แต่ทางลงเขาที่เดิน 3 คนมีเบียด ที่กั้นมีเป็นระยะๆ เท่านั้น แล้วก็มาฝนตกทางก็เลยลื่นหน่อย ก็ค่อยๆ เดินลงมา แบบวิวสวยน่ะ แต่ตรูจะตกลงไปตายไหมเนี่ย 55555 ตื่นเต้นไปอีกแบบ

ลงมาถึงท่าเรือ Ferry (2.5€) ข้ามกลับเพื่อนั่งรถไฟกลับเวียนนา ที่หาข้อมูลมามีแค่ชื่อสถานีที่ต้องไปต่อกับสถานีปลายทางที่ต้องลง คือ จาก Halllstatt >> Attnang-Puchheim >> Wien Westbahnhof (ดูชื่อดิ ถ้าไม่หาข้อมูลมาใครจะรู้ว่าอันสุดท้ายคือเวียนนาว่ะ 555) การซื้อตั๋วรอบนี้ต้องบอกว่าโบจ่ายค่าครู คือถ้าโบซื้อทีเดียวจาก Hallstatt จะได้ในราคา 48.5€ แต่ด้วยความไม่แน่ใจ แล้วที่บอกไปวันนี้วันหยุดเลยไม่มีใครทำงานที่สถานีเลย ต้องซื้อจากตู้ขายตั๋วเอา โบเลยซื้อขาแรกที่มา Attnang ก่อนจ่ายไป 8.5€ แล้วมาซื้ออีกขบวนที่จะเข้าเวียนนา 43.2€ เลยเสียตังค์เยอะกว่าเลยทีนี้ และนับว่าเป็นรอบที่เสียค่าเดินทางแพงสุดเลย นั่งนอยเล็กน้อย แต่ก็ชั่งมัน เราต้องโง่มาก่อนฉลาด 55555 ถึงเวียนนาหละต้องตามหาที่พักต่อ ไม่ได้จองอีกหละครับท่าน

2015.10.24 : หลังจากเมื่อคืนลุ้นกะที่พักว่าจะเต็มไหม เพราะไม่ book มา เช้านี้ก็ไม่มีไรมาก ไม่มี plan อีกเช่นเคย บอกตรงๆ ไม่ได้หาข้อมูลอะไรของเวียนนามาเลย 55555 หาเอาเช้านี้นี่แหละว่ะ เดินๆไปเดี๋ยวก็รอบ ไปดูหละกันว่าได้ไรมามั่ง วันนี้ไม่มีไรมากชิวๆ ฟิวเขตเมือง เริ่มเฉยๆ สงสัยเอียนวิวเมืองซะหละ…เริ่มเข้าใจคนที่ชอบเดินทางจริงๆ ทำไมเค้าถึงไป เนปาล อินเดีย ไรพวกนี้ คือมันน่าเบื่อง่ะกะอะไรเมืองๆ เดินดู brand name มันคล้ายๆ กันหมด แต่ถ้าไปประเทศที่เป็นธรรมชาติมันสุดกว่า ฟิวมันเฮ้ยวิวงี้แบบนี้คือเราเท่านั้นน่ะที่เห็น เพราะธรรมชาติ อากาศ มันเปลี่ยนทุกวันง่ะ ต่อให้กลับไปอีกก็ไม่เหมือนเดิม นี่แหละเสน่ห์ของการเที่ยวแบบไปดูธรรมชาติ <<< พูดจากที่ไปมาหลายเมืองน่ะ ทริปนี้ทำให้รู้ตัว ว่าเบื่อวิวเมืองไปแล้ว 55555 ไม่แปลกใจ ขนาดอยู่ กทม วันหยุดยังไม่ไปห้างเลย ส่วนพรุ่งนี้ไปไหนนั้นรอติดตาม

2015.10.25 : จบไปแล้วกับ 5 ประเทศ 10 เมือง แต่เดี๋ยวค่ะงวดนี้มีแถม!!!! เหลืออีก 1 วัน เลยมี one day trip ไป Bratislava, Salovagia ใช้เวลาจากเวียนนาไปแค่ 1:40 นาที จัดซิค่ะรออะไร 5555

Bratislava เมืองหลวงของ Salovagia มานี่ก็ไม่ได้หาข้อมูลไรไปเลยเหมือนเดิม เช้ามาออกช้า ไปถึงรถไฟกำลังจะออก เลยซื้อตั๋วปุ๊บ (16€ ไป-กลับ) วิ่งขึ้นรถไฟพร้อมอีนาง 10 กว่าโลที่หลัง 555555 เอาว่ะ!!! เอาแม่งไปด้วยนี่แหละค่อยไปหาที่ฝากสถานีปลายทางเอา (เป็นคนไปตายเอาดาบหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะเนี่ย 5555) ไปถึงฝากกเป๋าเรียบร้อย(2€) ก่อนออกสถานีรถไฟขอแผนที่กะถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ ที่แบบพูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง เพราะที่นั่นไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เห็นหน้าฝรั่งอย่าไปคิดว่าเค้าจะเก่งอังกฤษทุกคนน่ะจ๊ะ บางคนแย่กว่าเราอีก เห็นท่าคงคุยไม่รูเรื่องก็เออน่ะดูแผนที่เอาหละกัน เดินออกจากสถานีเห็นแทรมขึ้นแทรมแม่งไปไหนก็ไม่รู้ 55555 ขึ้นๆ ไปก่อน…สรุปพาตรูออกนอกเมือง (ซะงั้น) โอเคลง…ขึ้นสายใหม่มั่วๆไป นั่งรถเล่นชมเมือง เดี๋ยวก็เข้าเมืองเองอ่ะ ซักพักก็เข้ามาถึงเขตเมือง ที่นี่ไม่ได้เจริญหรือมีสถาปัตยกรรมอะไรใหญ่โตมากมาย และค่ะ!!! วันนี้วันอาทิตย์ร้านค้าปิดหมดค่ะ ให้ความรู้สึกนี่ตรูอยู่ในหนังที่เมืองมีคนติดเชื้อจนต้องปิดเมืองป่ะเนี่ย คนด็ไม่ค่อยมี ที่นี่เหมือนเมืองลับแล ทั้งๆ ที่ห่างจากเวียนนาไม่ถึง 2 ชม แต่ความเจริญต่างกันลิบลับ ก็ไปดูความสวยแบบเรียบง่ายสไตล์ยุโรปตะวันออก ถ้าไม่ไปก็ไม่รู้ ภาพเซทนี้ขอใช้ฟิลเตอร์อาร์ทเพิ่มความขังของ Salovagia หละกันเนอะ จบทริปหละ พรุ่งนี้กลับบ้าน คิดถึงส้มตำปลาร้าาาาาาาแล้นนนน