หน้าแรก รีวิวจากนักท่องเที่ยว วันฝนพร่ำเย็น...

วันฝนพร่ำเย็นฉ่ำที่ “เชื่ยวหลาว” 2

เที่ยวเขื่อนเชื่ยวหลาว 2

เสียงริงโทนที่แสนคุ้นหูของโทรศัพท์มือถือคู่ใจของผมดัง เป็นสัญญาณจากไกด์ผู้นำเที่ยวของทริปนี้โทรเข้ามาแจ้วเตือนว่าอีกสิบห้านาทีเรือกำลังจะออกให้เดินทางมาพร้อมกันที่จุดนัดพบ “ได้ครับตอนนี้ผมอยู่สันเขื่อน” ผมรีบขานรับอย่างไวก่อนที่จะสาวเท้าเก้าเดินไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกลเท่าไรนัก

บรรยากาศภายในเขื่อนเชี่ยวหลาน ภาพสวยๆจากแพ500ไร่
บรรยากาศภายในเขื่อนเชี่ยวหลาน ภาพสวยๆจากแพ500ไร่

ผมขับรถออกมาจากเส้นทางสันเขื่อนที่ห้อมล้อมไปพื้นป่าและผืนน้ำสีเขียวสด เพื่อไปยังท่าเรือเทศบาลที่หรือที่เรียกกันว่าท่าเรือเชี่ยวหลานซึ่งตั้งในอยู่ปลายทางของถนนเส้นนี้ เมื่อลงเนินสุดท้ายก่อนถึงท่าเรือผมหักรถเลี้ยวตามป้ายเข้าไปยังจุดจอดรถโดยผมเสียค่าบริการในวันละยี่สิบบาท เพื่อแลกกับการดูแลรักษารถเช่าที่ต้องถนอมมากกว่ารถของตนเอง (เนื่องจากค่าปรับแพง)

บรรยากาศภายในเขื่อนเชี่ยวหลาน ภาพสวยๆจากแพ500ไร่
บรรยากาศภายในเขื่อนเชี่ยวหลาน ภาพสวยๆจากแพ500ไร่

เมื่อผมก้าวเท้าเลยจุดจอดรถมายังพื้นที่นัดพบบริเวณ “ศาลาหกเหลื่ยม” ที่ตั้งเด่นหลาอยู่บริเวณท่าเรือเรือแห่งนี้ภาพมุมสูงที่ผมมองลงไปยังผืนน้ำมันช่างกว้างใหญ่ไม่ต่างกับทะเลน้ำเค็มทางฝั่งอันดามันหรืออ่าวไทย สิ่งที่แตกต่างกันก็อาจจะเป็นเพียงรสชาติของน้ำที่มันจืดจางเหมาะแก่การใช้สอยก็เท่านั้น

เมื่อได้เวลาผมรีบกระโจนลงเรือโดยการเลือกตำแหน่งที่นั่งข้างไกด์และคนขับเรือที่ประจำการอยู่ข้างเครื่องยนต์ เรือที่เราโดยสารเพื่อที่ไปยังที่พัก “แพ500ไร่” นั้นเป็นเรือหางยาวประมาณ 20 ที่นั่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนตร์รถสี่ล้อที่ถูกถอดออกมาติดใบพัดให้เหมาะแก่การเดินทางบนผิวน้ำเช่นนี้

เสียงเรือที่ดังราวกับเครื่องยนตร์รถสามล้อเครื่องดังเป็นสัญญาณการออกเดินทางเมื่อเรือออกเดินเลยห้วงแรกของพื้นน้ำที่กว้างใหญ่ ความคิดของผมที่ว่าที่นี่เป็นดังท้องทะเลที่กว้างใหญ่มันกลับชัดเจนขึ้นจาก ภูเขาหินปูนขนาดน้อยใหญ่ เรียงรายอยู่ราวกับว่าลอยอยู่บนผิวน้ำจนใครต่อใครก็ต่างเรียกขานว่าที่นี่คือ “กุ้ยหลินเมืองไทย” แต่สำหรับควาคิดของผมนั้นที่มันยิ่งใหญ่เกินไปกว่าจะไปเปรียบเทียบกับที่ใดใดได้ สวรรค์ยังสวยน้อยไปกว่าบรรยาการที่แสนสงบ ปลอดโปร่งและสวยงามแห่งนี้ เรือหางยาวลำใหญ่พาผมล่องไปตามเส้นทางลัดเลาะบรรดาภูเขาหินปูนมากมาย น้อยใหญ่ จุดแรกที่เรือจอดนั้นคือจุดที่เรียกว่า “ประตูแห่งกุ้ยหลิน” จุดนี้จะเป็นการเริ่มต้นเส้นทางของการเข้าสู่ดงภูเขาหินปูนมากมายหลายรูปทรง ในจุดนี้ไกด์เอ่ยพลางชี้นิ้วให้เราดูว่าระดับน้ำจะลึกประมาณ 100-120เมตรซึ่งนับว่าลึกมากเลยทีเดียว แต่นั้นก็เนื่องจากแต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นดังหุบเขา มีพื้นที่ราบเป็นหมู่บ้านยอดภูเขาขนาด

บรรยากาศภายในเขื่อนเชี่ยวหลาน ภาพสวยๆจากแพ500ไร่
บรรยากาศภายในเขื่อนเชี่ยวหลาน ภาพสวยๆจากแพ500ไร่

น้อยใหญ่ที่โผล่พ้นน้ำมาไม่กี่เซ็นติเมตรในอดีตอาจะเคยตั้งเด่นเป็นสง่าสูงเสียดฟ้าก็เป็นได้ ผมขยับตัวเข้าไปใกล้กับคนขับเรือมากขึ้นและถามข้อมูลที่ผมต้องการจะรู้มากที่สุดเกี่ยวเขื่อนแห่งนี้ คนขับเรือยินดีเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อน เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันเป็นผืนน้ำที่กว้างใหญ่น้แยคนนักที่จะทราบว่าใต้ผืนนำ้แห่งนี้เคยเป็นชุมชนหมู่บ้าน มีทั้งวัดวาอาราม โรงเรียน โรงพยาบาล หรือสถานที่ราชการแต่หลังจากการสร้างเขื่อนเสร็จสิ้นทางการก็เริ่มปล่อยน้ำมาจนสูงจนถึงทุกวันนี้ แต่ทางการก็ไม่ละเลยในการจัดสันพื้นที่ทำกิน พื้นที่สวน พื้นที่อาศัยให้กับชาวบ้าน…….แล้วพบกันต่อบทความถัดไปนะครับ

 

 

Published in รีวิวจากนักท่องเที่ยว

แสดงความคิดเห็น

comments

ทิ้งคำตอบไว้