ภูลังกา พะเยา
เปลี่ยนที่นอน ไปกางเต๊นท์รับลมหนาว นอนห่มฟ้าดูดาว ตื่นรับแสงแรงของวันที่ภูลังกา 1,720 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
ทริปเล็กๆ ครั้งนี้เริ่มต้นจากที่คุณแม่ฝากให้เอารถไปเข้าอู่ เราต้องไปรับรถจากบ้านคุณแม่ที่จังหวัดพะเยา หลังจากนั้นเรายังมีเวลาว่างหนึ่งคืน หนึ่งคืนบางครั้งอาจจะเป็นวันดีๆ สำหรับการอ่านหนังสือสักเล่ม หนังดีๆ สักเรื่อง อาหารอร่อยๆ มื้อพิเศษกับคนรู้ใจสักมื้อ เราคิดตลอดทางระหว่างขับรถไปบ้านคุณแม่ว่าหนึ่งคืนพรุ่งนี้ของเราอยากจะใช้ทำอะไร ระหว่างทางสายตาเหลือบไปเห็นป้ายภูลังกาตลอดทาง หลายเดือนก่อนเคยพับแผนการไปกางเต๊นท์ที่ภูลังกามาแล้วหนึ่งครั้ง คราวนี้เราเลยไม่รอช้า รีบโทรศัพท์สอบถามรุ่นพี่ที่ทำงานอุทธยานขอเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ แจ้งเข้าพัก แล้วรับกลับบ้านเตรียมเต๊นท์ ถุงนอน อาหารแห้ง ติดรถพร้อมออกเดินทาง

จากตัวจังหวัดพะเยา ใช้ถนนเส้นทางพะเยา-ปง เส้นทางเดียวกับภูชี้ฟ้า มีป้ายทางแยกบอกตลอดทาง ขับรถตามป้ายถึงวนอุทธยานภูลังกาทางด้านซ้ายมือใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่า หลังจอดรถที่จุดจอดรถแล้วจะมีจุดให้กางเต๊นท์สามจุด ใกล้ๆกับที่ทำการวนอุทธยานมีลานกางเต๊นท์จุดแรก สามารถขับรถยนต์ทั่วไปมาถึงที่นี่ได้ แต่เราตั้งใจเดินขึ้นไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นวันรุ่งขึ้นที่จุดชมวิวยอดภูลังกา เลยไปตั้งเต๊นท์ใกล้ๆ กับบ้านพักซึ่งห่างออกไปราวสองกิโลเมตรจากที่ทำการต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ในฤดูการท่องเที่ยวจะมีรถบริการรับส่งนักท่องเที่ยวจากที่ทำการถึงบ้านพัก ลานกางเต๊นท์ถัดไปรอบละ 1,000 บาท หารเฉลี่ยกันตามจำนวนผู้โดยสาร โชคดีหลังจากจอดรถติดต่อเจ้าหน้าที่ พี่ๆ ที่กำลังจะขึ้นไปส่งเสบียงนักศึกษาที่มาเข้าค่ายด้านบนเห็นเข้าพอดี เห็นว่ามาคนเดียวเลยชวนเราติดรถขึ้นไปด้วย


เราตั้งเต๊นท์ใกล้ๆ บ้านพักที่น้องนักศึกษามาออกค่ายพัก ซึ่งอยู่ห่างจากยอดภูลังกาสองกิโลเมตร ใกล้ๆ กันเป็นเต๊นท์พี่ๆ อีกกลุ่ม มากันทั้งหมดสามคนหลังจากที่เรามาถึงไม่นาน ทั้งสามชวนเราร่วมวงมื้อเย็นแบบอบอุ่น ปิ้ง ย่าง ลวก จิ้ม กินไป คุยไป กลุ่มนี้เตรียมอาหารกันมาแบบเหลือเผื่อแผ่ ทำเอามาม่าคัพที่เราเตรียมมาค้างอยู่ในกระเป๋าแบกกลับบ้านเหมือนเดิม



เช้ารุ่งขึ้นเราออกเดินเท้าจากจุดกางเต๊นท์ที่สองใกล้บ้านพักขึ้นไปยอดภูลังกากันตั้งแต่ก่อนตีห้า เดินฝ่าความมืดผ่านทางลูกรังที่รถขับเคลื่อนสี่ล้อสามารถขับขึ้นไปได้ถึงจุดกางเต๊นท์ที่สามซึ่งใกล้กับยอดภูลังกาที่สุด จากจุดกางเต๊นท์ที่สามเดินอีก 800 เมตร ถึงจุดชมวิวความสูง 1,720 เมตร ระยะแปดร้อยเมตรสุดท้ายเป็นทางเดินผ่านทุ่งหญ้าโล่งกว้างสลับกับต้นไม้ใหญ่ประปราย




พี่หัวหน้าวนอุทธยานทำหน้าที่บรรยายให้เรารู้จักกับภูลังกามากขึ้น ชี้ให้ดูภูชี้ฟ้าที่อยู่ไกลออกไปจะมองเห็นได้ในวันที่ไม่มีหมอกหนา จากตรงนี้มองเห็นประเทศลาวเพื่อนบ้านของเราได้ ภูนมเป็นยอดเขาที่แยกตัวออกไปอยู่ต่ำกว่าในแนวสันเขาเดียวกันจากภูนมจะเห็นวิวอีกฝั่ง

ขากลับได้พี่ๆ เต๊นท์ข้างๆ กลุ่มเดิมใจดีชวนให้ติดรถลงมาด้วย จากที่จอดรถวนอุทธยานขับต่อมาเรื่อยๆ ไม่ไกลนักก็ถึงโครงการหลวงปังค่า เราแวะพักดื่มกาแฟกันที่นี่ แวะชมแปลงผักผลผลิตการเกษตร ที่ดึงดูดสายตาพวกเราตั้งแต่ขามาคือฟังทองยักษ์แบบที่เคยเห็นภาพถ่ายฟักทองของต่างประเทศ ใหญ่ขนาดที่ว่าตัวเราดูเล็กลงไปทันที
โครงการหลวงปังค่า มีบ้านพักบรรยากาศดีบริการนักท่องเที่ยว ค่อนข้างสะดวกสบาย สามารถเดินเล่นชมแปลงผัก แปลงดอกไม้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติแต่ไม่ชอบนอนแบบกางเต๊นท์
ทริปเล็กๆ ครั้งนี้เดินทางคนเดียวเหมือนที่เคยเป็นบ่อยๆ ทุกครั้งที่เดินทางคนเดียว ขากลับเรามักจะได้เพื่อน พี่ น้อง มิตรภาพใหม่ๆ กลับมาเป็นของฝากเสมอ การเดินทางคนเดียวสำหรับเราคือการเตรียมพร้อมที่จะเป็นเพื่อนกับทุกคน พร้อมที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งที่รอเราอยู่
