หน้าแรก รีวิวจากนักท่องเที่ยว ดินแดนพิสูจน์...

ดินแดนพิสูจน์รักแท้ภูกระดึง

เที่ยวภูกระดึง

มีคนว่ากันต่อๆกันมาว่า……หากจะพิสูจน์รักแท้  ให้พาคนที่เรารักไปพิชิตยอดเขาภูกระดึงให้ได้สักครั้งในชีวิต และถ้าหากเขาคนนั้นของเราสามารถขึ้นไปและช่วยเหลือเราได้ตลอดระยะทางกับการเดินทางขึ้นพิชิตยอดภูกระดึงอย่างแสนลำบากได้นั้น โบราณได้บอกไว้ว่า ในชีวิตคู่จะไม่มีปัญหาชีวิตที่คุณทั้งสองคนแก้ไม่ได้ เพราะด้วยระยะทางของอุทยานภูกระดึง ต้องเดินด้วยเท้าเปล่าเป็นระยะทางถึง 9 กิโลเมตร โดยทางขึ้นเขา5กิโลเมตร ทางราบประมาณ 3 – 4 กิโลเมตรเลยทีเดียว

พิชิตยอดเขา

เดินขึ้นภู

 

ไม่ใช่แค่คู่รักเท่านั้นนะคะที่นิยมมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ แต่ยังมีกลุ่มวัยรุ่นต่งๆทั้งหลาย ต่างมาพิสูจน์มิตรภาพกันด้วย เรียกได้ว่าเป็นการพิสูจน์ทีดีมากๆเลยทีเดียวนะคะ แหม…….มีเสียงเล่ากันมาแบบนี้แล้วเรามาทำความรู้จักกับอุทยานแห่งชาติดินแดนพิสูจน์ความรักกันดีกว่า

ภูกระดึง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นอุทยานที่เรียกได้ว่าใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย อยู่ในท้องที่ของตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย และเรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมของคนไทยเป็นจำนวนมาก โดยจุดสูงสุดนั้นคือบริเวณคอกเมยนั่นเอง สภาพแวดล้อมทั่วๆไปของภูกระดึง เรียกได้ว่าโอบล้อมไปด้วยเหล่าบรรดาต้นไม้นานาๆพรรณ และเหล่าสัตว์ป่าทั้งหลาย แม้แค่ป่าไม้สัตว์ป่าก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมละคะ แต่ยังไม่หมดแค่เพียงเท่านั้นภูกระดึงยังมีทีเด็ดนั้นคือ ลำธารและน้ำตก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่สุดในโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลยละค่ะ ยังไม่หมดเพียงแค่นี้เท่านั้นนะคะในฤดูหนาวภูกระดึงนี่เรียกได้ว่า เป็นสถานที่ยออดฮิตประหนึ่งยกเกาหลีมาไว้ที่ไทยกันเลยที่เดียว เพราะด้วยอากาศที่ไม่ใช่แค่หนาวธรรมดาคะ ต้องบอกก่อนว่ามันหนาวมากเลยด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นแรงจูงใจ ให้กับนักท่องเทียวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชอบเดินป่าทั้งหลายลองมาพิชิตยอดเขาภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต

พิชิตยอดเขาภูกระดึง

สำหรับเรื่องเวลาในการเดินขึ้นนั้น  

ทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะเริ่มให้ขึ้นไปได้ตั้งแต่เวลา 07:00-14:00 น.แต่ถ้าหลังจากนี้แล้ว ทางอุทยานจะไม่อนุญาตให้ขึ้นไป เพราะว่าต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะถึงยอดเขา ถ้าไปหลัง14:00 อาจจะค่ำก่อนที่จะถึงยอดเขาแล้วการเดินทางช่วงฟ้ามืดมันจะลำบากมากที่สุดเลยละค่ะ โดยทางอุทยานจะเปิดการท่องเที่ยวบนยอดเขาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคมของทุกปี และจะปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายนของทุกปีเพื่อเป็นการฟื้นฟูในฤดูฝนนั้นเองอ้อ…..ลืมบอกไปว่า หากใครที่ต้องการค้างคืนที่นี่แล้วหอบข้าวของมาด้วยนั้น ที่นี่เค้าก็มีบริหารรับฝากขนของขึ้นไปให้เราด้วยนะคะ แต่เขาก็ขนขึ้นไปด้วยวิธีการเดินเท้าเหมือนพวกเรานี่แหละค่ะ มีตั้งแต่เด็กวัยรุ่นจนถึงคนแก่ซึ่งเป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านระแวกนั้น

 

Published in รีวิวจากนักท่องเที่ยว

แสดงความคิดเห็น

comments

ทิ้งคำตอบไว้