#1บ้านระเบียงดาว(เชียงใหม่) : พักห้าร้อย วิวห้าล้าน

บ้านระเบียงดาว

          “จองตั๋วไปเชียงใหม่แล้วนะ พาเราเที่ยวด้วย” คอมเม้นต์หนึ่งใต้สเตตัสเฟซบุ๊คที่ฉันบรรยายถึงอากาศเย็นๆในช่วงปลายฝนต้นหนาวปีที่ผ่านมา เจ้าของตั๋วเครื่องบินกำลังจะเดินทางไกลมาจากปัตตานี เมื่อเด็กใต้อยากสัมผัสอากาศเย็นสบายของเมืองเหนือดูบ้าง ในฐานะเจ้าบ้านฉันควรจะพาแขกบ้านแขกเมืองไปไหนดี ฉันคิดเอาเองโดยใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐานว่าเพื่อนคนนี้คงจะไม่ชอบความวุ่นวายมากนัก บรรยากาศธรรมชาติ ฟังเสียงจิ้งหรีด นกร้อง นั่งดูดอย นอนดูดาว ตื่นเช้าดูพระอาทิตย์กับทะเลหมอก คงเป็นความประทับใจที่ยากจะลืม ฉันเสนอแผนการพักผ่อนที่บ้านระเบียงดาวกึ่งไม่มีทางให้เลือก เพราะฉันเองอยากไปที่นี่อยู่ด้วยเป็นทุนเดิม สรุปว่าเราเห็นตรงกันว่าจะใช้เวลาสองวันหนึ่งคืนที่นี่

          การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงดาว ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ทางโค้งและค่อนข้างชันในบางช่วง จากอำเภอเชียงดาวต้องขับรถต่อไปทางบ้านนาเลา(มุ่งหน้าไปทางถ้ำเชียงดาว ก่อนถึงถ้ำจะมีทางแยกไปบ้านนาเลา) ถึงบ้านระเบียงดาวระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นทางคอนกรีตแคบลงและชันขึ้น ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ

          เราสองคนเดินทางถึงที่หมายราวสี่โมงเย็น “โห….สวยมากอ่ะ” คำแรกที่ออกจากปากเราทั้งคู่เมื่อจอดรถ พระอาทิตย์กำลังสาดแสงกระทบดอยหลวงเชียงดาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ยังพอมีเวลาเหลืออีกสักพักก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ฉันเช็คอินเก็บข้าวของเข้าห้องแล้วจับจองที่นั่งตรงลานระเบียงหลักของที่พัก เรานั่งเงียบๆ มองแสงกระทบดอยหลวง นั่งมองนกบินผ่าน เมฆลอยเคว้ง ….บ้านบนดอย บ่อมีแสงสี บ่อมีทีวี (แต่)มีน้ำประปา… ฉันว่าเพลงนี้เข้ากับบรรยากาศเป็นที่สุด

          ที่นี่เราบอกลาโลกออนไลน์ใช้ชีวิตอยุ่กับโลกตรงหน้าที่เป็นของจริง สัญญาณโทรศัพท์ริบหรี่แทบไม่สามารถติดต่อสื่อสารใดๆ ได้ อย่าพูดถึงการออนไลน์เฟซบุ๊คหรือแชทไลน์เลย กระทั่งการโทรออกรับสายยังไม่สามารถทำได้ นี่แหละคือการพักผ่อนจริงๆ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อประโยชน์ใช้สอยไม่กี่อย่าง หลักๆ เช่น ถ่ายรูป ดูเวลา อ่านข้อความเก่าๆ ได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ พูดคุยกับคนข้างๆมากขึ้น เราส่วนใหญ่(แขกในวันนั้น)นั่งอยู่ที่ระเบียงกันจนแสงสุดท้ายลาขอบฟ้า

          ได้เวลาอาหารเย็น(ราคาที่พักคนละ 500 บาท รวมอาหาร 2 มื้อเย็น+เช้า) เจ้าบ้านจะจัดสำรับอาหารตามใจแขก สามารถเลือกได้ว่าจะทานที่ระเบียงหน้าบ้านพัก หรือที่ลานระเบียงหลักของที่พัก เราสองคนเลือกทานที่ลานระเบียงหลักที่กว้างขวางกว่า ไข่เจียวฟูกรอบ ผัดผักสด แกงจืด น้ำพริกผักลวก เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อาหารสำรับใหญ่สำหรับเราสองคนถือว่าเยอะมาก แต่เราก็จัดการกันเกลี้ยงเกือบทุกอย่างเป็นเสียงยืนยันว่าอาหารอร่อยมาก หลังมื้อเย็นเราใช้เวลาในการนอนดูดาวสักพักก่อนจะเข้านอนแต่หัวค่ำ ที่นี่ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีกิจกรรมบันเทิงใดๆ เราได้กลับไปใช้ชีวิตในแบบธรรมชาติอีกครั้ง

          ที่พักแต่ละหลังเป็นบ้านไม้ไผ่หลังเล็กๆ ไม่มีเตียง ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีปลั๊กไฟ มีเพียงหลอดไฟหนึ่งดวงให้แสงสว่าง ฟูกวางบนพื้นสำหรับสี่คนในบ้านหนึ่งหลัง ดูเป็นความเรียบง่ายที่อาจจะไม่คุ้นเคย แต่คืนนั้นก็เป็นอีกคืนนอนหลับอย่างสบายใจมากที่สุด ฉันตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นมานั่งรับลมหนาวรอดูพระอาทิตย์อวดแสงแรกของวัน เช่นกันกับแขกหลายคนที่ขัดขืนต่อสู้กับอากาศหนาวตื่นมานั่งรอที่ระเบียง เจ้าบ้านเองก็ตื่นมาเตรียมน้ำร้อนสำหรับชงกาแฟ โอวัลติน ฉันนั่งจิบกาแฟร้อนๆ แก้หนาวระหว่างรอฟ้าสว่าง

          อาหารเช้าของเราคือข้าวต้มร้อนๆ วิวดอยหลวงเชียงดาว หมอกจางๆเบื้องหน้าทำให้ข้าวต้มถ้วยนี้รสชาติยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก กิจกรรมของฉันระหว่างการพักที่นี่ไม่ซับซ้อน ตาดู หูฟัง กิน นอน ตื่น รู้สึก อ่านหนังสือ คุยกับคนรอบข้าง ด้วยความที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากธรรมชาติ ทำให้ฉันได้ใส่ใจกับทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น ไม่ต้องกังวลกับเฟซบุ๊ค ไม่ต้องกลัวจะตอบไลน์ช้า การไม่มีอะไรเลยนั่นกลับทำให้ฉันมองเห็นสิ่งที่มีอยู่ได้ชัดเจนขึ้น ครั้งแรกที่บ้านระเบียงดาวฉันแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน และการได้เฝ้ามองความสง่างามของดอยหลวงเชียงดาวจากมุมนี้ยิ่งทำให้ฉันมั่นใจว่าอีกไม่นานฉันจะต้องไปยืนอยู่ข้างบนนั้น จุดสูงสูดดอยหลวงเชียงดาว เส้นทางเดินเท้าที่ท้าทายให้นักเดินทางมากมายมาสัมผัส ทดสอบความมุ่งมั่นสู่ความสูง 2,225 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

คำแนะนำ

– บ้านบนดอยบ่อมีแสงสี บ่อมีทีวี บ่อมีเซเว่น ละแวกใกล้เคียงบ้านระเบียงดาวไม่มีร้านค้าสะดวกซื้อใดๆ ขนมหรืออาหารการกินใด(นอกจากมื้อเย็นและมื้อเช้าที่ทางโฮมสเตย์เตรียมไว้ให้) สิ่งของจำเป็นต้องซื้อจากตัวเมืองเข้าไปเอง

– ในบ้านพักไม่มีปลั๊กไฟ จะมีจุดเดียวตรงหน้า reception ควรเตรียมแบตเตอรี่สำรองไปด้วย

– ช่วงฤดูหนาวโดยเฉพาะวันหยุดแขกจะเยอะมากที่พักจะถูกลูกค้าจองไว้ล่วงหน้า การวอร์คอินอาจทำให้ผิดหวัง การจองล่วงหน้า ติดต่อ 089-9030083

– การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ควรเผื่อเวลาจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงบ้านระเบียงดาว ประมาณ 3-4 ชั่วโมง สำหรับคนที่ไม่ชินเส้นทาง ควรไปถึงก่อนค่ำเพราะเส้นทาง 20 กิโลเมตรก่อนถึงบ้านระเบียงดาวจะแคบชันและค่อนข้างยากต่อการมองเห็นป้ายต่างๆในเวลากลางคืน

แสดงความคิดเห็น

comments